สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ ที่ครอบหูลดเสียง มาใช้งาน!

การป้องกันหูถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณทำงานหรืออยู่ท่ามกลางเสียงดัง การป้องกันหูจะช่วยให้หู และการได้ยินของคุณแย่ลง พูดง่าย ๆ ก็คือ หูอื้อ หรือหูตึงนั่นเอง เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ที่ครอบหูลดเสียง ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่เหมาะกับทุกคน ด้วยตัวเลือกที่มีให้เลือกมากมาย การจะเลือกสิ่งที่ใช่จึงอาจเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อพิจารณาว่าการปกป้องการได้ยิน และการใช้มาตรการป้องกันมีความสำคัญแค่ไหน ในบทความนี้จะแบ่งปันเคล็ดลับดีๆ เพื่อให้คุณเลือกการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อช่วยปกป้องหูและการสูญเสียการได้ยินของคุณเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง

สภาพแวดล้อมที่คุณต้องการการปกป้อง

คุณต้องประเมินระดับเสียงในการทำงาน เมื่อคุณเข้าใจระดับเสียงในบริเวณโดยรอบแล้ว คุณก็สามารถเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่เหมาะสมเพื่อความสบายหูได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเคลื่อนไหว และต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง ที่ครอบหูลดเสียง แบบตัดเสียงรบกวนทั้งหมดอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากคุณต้องถอดออกบ่อยครั้งเพื่อสื่อสารเพื่อนร่วมงาน

การเลือกใช้ ที่ครอบหูลดเสียง ที่ช่วยลดเสียงรบกวนสามารถช่วยลดความซับซ้อนในการโต้ตอบของคุณ และยังคงให้การปกป้องหูได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ หากคุณมีปัญหาในการได้ยินหรือต้องการสิ่งรบกวนน้อยที่สุด การลงทุนในหูฟังหรือที่ครอบหูที่ตัดเสียงรบกวนสามารถช่วยปกป้องหูได้ดีที่สุดและเพิ่มความสบาย การให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ป้องกันการได้ยินประเภทที่ถูกต้องในสถานที่ต่างๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพหูและความเป็นอยู่โดยรวม

สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก ที่ครอบหูลดเสียง

เมื่อเลือก ที่ครอบหูลดเสียง มันจะมีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่คุณต้องพิจารณาก่อนเอามาใช้งาน จะมีอะไรบ้าง?ไปดูกันได้เลย 

ความสบายคืออันดับแรก

การเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่พอดี และสบายจะกำหนดว่าคุณจะสวมอุปกรณ์ป้องกัน หรือไม่ และถ้าหากว่า ที่ครอบหูลดเสียง ของคุณไม่สบาย คุณจะไม่ค่อยสวมมันตลอดเวลา มองหาตัวเลือกที่ทำจากวัสดุที่นุ่ม ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งพอดี และไม่ทำให้รู้สึกไม่สบาย นอกจากนี้ หากคุณกำลังมองหาการออกแบบที่ไม่เด่นชัด การออกแบบที่สร้างสรรค์ใหม่จะมีลักษณะเรียบง่าย และชัดเจน ทำให้ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน

ความพอดีที่เหมาะสม

ความพอดีที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับการปกป้องที่ดีที่สุด สำหรับ ที่ครอบหูลดเสียง หมายความว่าต้องใส่ที่อุดหูเข้าไปในช่องหูอย่างถูกต้องเพื่อสร้างซีล ที่ครอบหูควรพอดีกับหูโดยไม่มีช่องว่าง เมื่อเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ให้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่คุณจะใช้ที่อุดหู หากคุณมีแนวโน้มที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่ครอบหูลดเสียง จะต้องอยู่ในตำแหน่งที่แน่นหนาตลอดเวลา

ระดับการลดเสียงรบกวน

ระดับการลดเสียงรบกวน (NRR) เป็นการวัดมาตรฐานที่ใช้เพื่อระบุประสิทธิภาพของที่ครอบหูลดเสียง ในการลดการสัมผัสเสียงเป็นเดซิเบล (dB) ประเภทของสภาพแวดล้อมที่คุณสัมผัส จะส่งผลต่อระดับการป้องกันที่คุณต้องการ สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น สถานที่ก่อสร้าง หรือโรงงาน จำเป็นต้องใช้ ที่ครอบหูลดเสียง ที่มีระดับการลดเสียงรบกวน (NRR) ที่สูงขึ้นเพื่อปิดกั้นเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง 

พิจารณาระดับเดซิเบล

การทำความเข้าใจระดับเดซิเบล (dB) ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่เหมาะสม ยิ่งระดับเดซิเบลสูง เสียงก็จะยิ่งดังขึ้น การสัมผัสกับเสียงที่มีเสียงดังเกิน 85 เดซิเบลอาจทำให้สูญเสียการได้ยินได้ในระยะยาวได้ มองหาอุปกรณ์ป้องกันการได้ยินที่มีระดับการลดเสียงรบกวนที่เพียงพอ เพื่อให้ระดับเสียงอยู่ในระดับที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

มาตรฐาน OSHA ด้านความปลอดภัย ที่ครอบหูลดเสียง

การสัมผัสกับเสียงดังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในระดับเสียงที่สูงเกินระดับที่ปลอดภัย อาจทำให้สูญเสียการได้ยินได้ สำนักงานความปลอดภัย และอาชีวอนามัย หรือตัวย่อ (OSHA) กำหนดให้ผู้จ้างงานต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันเสียงให้กับคนงานทุกคนที่สัมผัสกับระดับเสียง 85 เดซิเบลขึ้นไปในรอบ 8 ชั่วโมง

เพื่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของสำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OSHA) ด้านความปลอดภัยในการได้ยิน ตั้งแต่การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่เหมาะสม เช่น ที่อุดหูและที่ครอบหู ไปจนถึงการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและเงียบสงบห่างจากเสียงดังเกินระดับที่กำหนด ซึ่งพนักงานสามารถเข้าไปพักหูได้ตามต้องการ

ความสำคัญของค่าการลดเสียงรบกวน (NRR) ของ ที่ครอบหูลดเสียง

เมื่อต้องเลือก ที่ครอบหูลดเสียง สำหรับการทำงาน ค่าการลดเสียงรบกวน (NRR) ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ให้คิดว่า NRR เป็นแนวทางที่บอกคุณได้ว่า ที่ครอบหูลดเสียง สามารถกันเสียงได้มากแค่ไหน? ยิ่งค่า NRR สูงขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเงียบมากขึ้นเท่านั้น 

ยกตัวอย่างเช่น ที่ครอบหูลดเสียง ที่มีค่า NRR 33 จะให้เสียงเงียบกว่า ที่ครอบหูลดเสียง ที่มีค่า NRR 25 นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามนะครับ อย่าเลือกค่า NRR สูงสุดอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ควรพิจารณาประเภทของเสียงที่คุณเจอ ในบางครั้ง ค่า NRR ที่สูงเกินไปอาจทำให้ได้ยินเสียงเตือนหรือเพื่อนร่วมงานที่สำคัญได้ยาก ดังนั้น การหาจุดสมดุลที่สมบูรณ์แบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ