เลือก กรรไกร ตัดให้ถูกงาน! ไม่ใช่ทุกแบบจะตัดได้ทุกอย่าง!
เมื่อพูดถึง กรรไกร หลายคนอาจจะนึกถึงแค่ กรรไกร ธรรมดาที่ใช้ตัดกระดาษในบ้านใช่ไหมครับ? แต่ในโลกของงานช่างนั้น กรรไกร มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบใหญ่ แบบเล็ก แบบตัดเหล็ก แบบตัดสายไฟ หรือแม้แต่ตัดท่อ PVC! แต่ละแบบมีหน้าที่ของมันเฉพาะทางจริงๆ ถ้าเราเลือกกรรไกรผิดงาน อาจไม่ใช่แค่งานไม่สวยนะครับ แต่ยังเสี่ยงทำให้เครื่องมือพัง หรือแย่กว่านั้นก็คือเจ็บตัวได้เลย!
ในบทความนี้ผมขอพาคุณมารู้จัก กรรไกร แต่ละชนิดว่าแต่ละแบบเหมาะกับงานอะไร? และเราควรระวังเรื่องไหนบ้าง จะได้ใช้งานได้คุ้ม ควรค่า ปลอดภัย และที่สำคัญคือ…ดูเป็นช่างมืออาชีพสุด ๆ ไปเลย
ทำไมต้องเลือกกรรไกรให้เหมาะกับงาน?
เพราะ กรรไกร แต่ละแบบมีหน้าที่เฉพาะทาง
กรรไกร ช่างเนี่ย อย่าไปคิดว่าใช้แทนกันได้เหมือน กรรไกร สำนักงานที่เอาไว้ตัดเอกสารนะครับ เพราะในโลกงานช่าง เขาออกแบบ กรรไกร ให้ทำหน้าที่เฉพาะทางจริง ๆ เช่น บางแบบไว้ตัดเหล็ก บางแบบไว้ตัดสายไฟ หรือบางแบบเอาไว้จัดการแผ่นอะคริลิกหรือฉนวนโดยเฉพาะ
กรรไกร แต่ละแบบก็เลยมีลูกเล่นไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่องความคม มุมของใบมีด ลักษณะด้ามจับ ความยาว และความแข็งแรง ถ้าเลือกไม่เหมาะกับงานที่ทำ อาจไม่ใช่แค่ตัดไม่ขาดนะครับ แต่อาจถึงขั้นพังก่อนงานเสร็จเลยก็ได้
หากใช้งานผิดประเภท อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น:
- ใบมีดหักหรือบิ่น
- งานตัดไม่เรียบ ต้องเสียเวลาซ้ำงาน
- อุปกรณ์พังเร็ว
- เสี่ยงบาดเจ็บจากแรงดีดหรือใบมีดที่ไม่มั่นคง
ช่างมืออาชีพมักมี กรรไกร หลายแบบ
ลองสังเกตดูช่างไฟ ช่างแอร์ หรือช่างเหล็กเวลาไปทำงานสิครับ จะเห็นว่าพวกเขามักจะมี กรรไกร เฉพาะทางติดตัวอยู่เสมอ ไม่ใช่ว่าใช้เล่มเดียวตัดได้ทุกอย่างนะ เพราะเขารู้ดีว่าถ้าใช้เครื่องมือถูกประเภทแล้ว งานจะเดินเร็วขึ้น ตัดได้เป๊ะ งานเรียบไม่ต้องมาแก้หลายรอบ แถมลดโอกาสผิดพลาดด้วย เรียกว่าทำงานแบบมืออาชีพตัวจริงเลย
ประเภทของ กรรไกร ตัดในงานช่าง
1. กรรไกรตัดแผ่นโลหะ (Tin Snips / Aviation Snips)
ลักษณะ
- ใบมีดจะหนาหน่อยและมักโค้งนิด ๆ เพื่อช่วยให้ตัดตามแนวโค้งหรือเส้นโค้งได้ง่ายขึ้นครับ ไม่ต้องออกแรงเยอะเหมือน กรรไกร ทั่วไป
- มีให้เลือกหลายแบบ เช่น ปากตรง (ไว้ตัดเส้นตรงทั่วไป), ปากโค้งซ้าย, และปากโค้งขวา ซึ่งสองแบบหลังนี้จะช่วยให้เลี้ยวมุมหรือตัดโค้งได้สะดวกโดยไม่ต้องหมุนวัสดุ
- บางรุ่นเค้ามีระบบคันโยกเสริมแรงมาให้ด้วยนะครับ กดเบา ๆ แต่ตัดได้เหมือนออกแรงเยอะ สบายมือมาก ๆ โดยเฉพาะเวลาเจองานหนา ๆ
เหมาะสำหรับ
- ตัดสังกะสีแบบที่ใช้ทำหลังคาหรือรางน้ำได้สบาย ๆ เลยครับ ใบมีดจะกัดเข้าได้ลึกและคมพอจะตัดได้เรียบ
- แผ่นเหล็กบาง เช่น พวกเหล็กรีดบางหรือแผ่นปิดผิวบาง ๆ ก็ไหว
- อลูมิเนียมแผ่น เช่น พวกแผ่นตกแต่งหรือวัสดุปิดผิว ที่ไม่หนาเกินไปก็จัดการได้อย่างสบายมือ
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะกับเหล็กหนาที่เกิน 1.2 มม. นะครับ ถ้าไปฝืนตัดนี่มีโอกาสสูงที่ใบมีดจะบิ่นหรือ กรรไกร เสียได้เลย เพราะมันไม่ได้ออกแบบมาสำหรับงานหนักขนาดนั้น
- แล้วก็อย่าลืมว่าทิศทางในการตัดสำคัญมาก ถ้าใช้ผิดมุมหรือฝืนตัดในองศาที่ไม่เหมาะ ใบมีดอาจเบี้ยวหรือเสียศูนย์ได้ครับ ซึ่งนอกจากงานจะไม่สวยแล้ว ยังอาจทำให้ต้องซื้อใหม่เร็วขึ้นด้วย
2. กรรไกรตัดสายไฟ
ลักษณะ
- ปลาย กรรไกร จะทำแบบทู่ ๆ หน่อยครับ เพื่อให้ปลอดภัยเวลาใช้งาน ไม่เผลอแทงมือหรือทำให้สายทองแดงด้านในเสียหาย ใบมีดก็ยังคมพอจะตัดสายไฟได้เรียบ ๆ
- ด้ามจับจะมีฉนวนหุ้มไว้ เพื่อกันไฟรั่วหรือไฟช็อตเวลาทำงานกับระบบไฟฟ้า ซึ่งถือว่าสำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะงานเดินสายไฟในบ้าน
- บางรุ่นก็มีช่องปอกสายไฟมาให้ในตัว เรียกว่าครบจบในอันเดียว ไม่ต้องพกหลายชิ้นให้รกกระเป๋าเครื่องมือเลยครับ
เหมาะสำหรับ
- ใช้ตัดสายไฟได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องออกแรงมาก ใบมีดคมช่วยให้ตัดได้รวดเร็วและเรียบร้อยครับ
- บางรุ่นมีฟังก์ชันปอกสายไฟในตัวด้วย ไม่ต้องเสียเวลาหาเครื่องมือเพิ่ม ใช้งานคล่องสุด ๆ
- เหมาะกับงานไฟฟ้าทั่วไป ไม่ว่าจะเดินสายในบ้าน ซ่อมปลั๊ก หรือติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ ก็หยิบมาใช้ได้ทันที
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ตัดสายเหล็กหรือวัสดุแข็งนะครับ เพราะ กรรไกร ตัดสายไฟออกแบบมาสำหรับวัสดุนิ่ม ถ้าเอาไปตัดเหล็กนอกจากจะตัดไม่เข้าแล้วยังพังไวอีกต่างหาก เสียดายของแน่นอน!
- ก่อนใช้งานอย่าลืมตรวจสอบฉนวนด้ามจับด้วยนะครับว่าอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยขาดหรือเสื่อมสภาพ เพราะมันเป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่วได้ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดครับ
3. กรรไกรตัดท่อ PVC และท่อพีอี
ลักษณะ
- ด้ามจับแข็งแรง จับแล้วมั่นใจ ไม่บิดงอให้เสียอารมณ์ตอนออกแรงตัด
- มีระบบฟันเฟืองที่ช่วยผ่อนแรง เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องตัดหลายท่อในวันเดียว ไม่ต้องออกแรงจนมือเมื่อย
- ใบมีดหนาแบบนี้ บอกเลยว่าตัดท่อได้เนียน ไม่บิ่น ไม่ต้องมานั่งไล่ตะไบขอบอีกที ประหยัดแรงและเวลาสุด ๆ ครับ
เหมาะสำหรับ
- ตัดท่อน้ำขนาดเล็ก
- เหมาะสำหรับงานระบบประปาภายในบ้าน เช่น การตัดท่อ PVC สำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ หรือเปลี่ยนจุดปล่อยน้ำใต้ซิงก์ ที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือใหญ่ให้วุ่นวาย แถมใช้งานสะดวกในพื้นที่แคบด้วยครับ
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ตัดโลหะเด็ดขาดนะครับ! เพราะใบมีดของ กรรไกร ประเภทนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้รับแรงแข็งขนาดนั้น เจอเหล็กเข้าไปทีเดียวมีสิทธิบิ่นหรือพังได้เลย เสียดายของ แถมอาจทำให้ตัดอะไรไม่ได้ต่ออีกด้วยครับ
4. กรรไกรตัดเหล็กเส้นหรือเหล็กแผ่น (Bolt Cutters / Shear Cutters)
ลักษณะ
- ใบมีดยาวและแข็งแรงมาก เหมาะกับการตัดวัสดุแข็ง ๆ อย่างเหล็กหรือโซ่ที่ต้องใช้แรงมาก ๆ แบบไม่ต้องกลัวว่ามันจะพังง่าย ๆ ครับ
- มีคันโยกหรือด้ามยาวช่วยผ่อนแรง ทำให้เราไม่ต้องออกแรงเยอะเวลาตัด ช่วยประหยัดแรงได้เยอะเลย โดยเฉพาะเวลาเจองานตัดที่ดื้อ ๆ หน่อย
เหมาะสำหรับ
- ตัดเหล็กแผ่นหนาๆที่ กรรไกร ทั่วไปเอาไม่อยู่? เจ้านี่แหละเอาอยู่ครับ!
- ลวดหนา เช่น ลวดผูกเหล็กหรือลวดโครงสร้าง ที่ต้องการแรงตัดเยอะ
- เหล็กข้ออ้อยขนาดเล็ก อย่างพวกเหล็กเส้นใช้ทำโครง คาน หรือตะแกรง ซึ่งต้องใช้ กรรไกร ที่คมและแข็งแรงถึงจะตัดได้สบาย ๆ
ข้อควรระวัง
- ต้องใช้แรงเยอะพอสมควรครับ โดยเฉพาะเวลาเจองานตัดเหล็กแข็ง ๆ ถ้าไม่มีแรงส่งที่พออาจจะทำให้ตัดไม่ขาดหรือต้องพยายามหลายครั้ง และที่สำคัญคือ…อาจมีอันตรายถ้าใบมีดดีดกลับมาโดนตัวเราได้ ดังนั้นเวลาใช้งานควรจับให้มั่น ตั้งท่าดี ๆ และถ้าไม่แน่ใจว่าตัดไหวไหม ควรหาคนช่วยดีกว่าครับ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด!
5. กรรไกรงาน DIY / งานทั่วไป
ลักษณะ
- เบา ใช้งานง่าย ไม่เมื่อยมือ เหมาะกับคนที่ชอบทำงานเบา ๆ หรือหยิบใช้งานเร็ว ๆ ในบ้าน
- ไม่ได้ออกแบบมาให้รับแรงเยอะ ถ้าฝืนใช้งานหนักอาจทำให้ใบมีดเสียรูปหรือหักได้ง่าย
เหมาะสำหรับ
- ตัดผ้า เทป แผ่นยางบาง ๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะเสียทรงหรือบิ่น
- เหมาะกับงานประดิษฐ์ทั่วไป เช่น ทำของตกแต่ง ตัดสติ๊กเกอร์ ตัดวัสดุนิ่ม ๆ ในบ้าน ใช้ง่าย เบามือ เหมาะกับใครที่ชอบงาน DIY หรืออยากมี กรรไกร ติดบ้านไว้ใช้งานยามฉุกเฉิน
ข้อควรระวัง
- อย่าเอาไปใช้กับงานหนักเชียวนะครับ เพราะ กรรไกร ประเภทนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้รับแรงเยอะ ๆ ถ้าฝืนใช้งานหนักอาจทำให้ใบมีดเสียรูป บิ่น หรือหักได้ง่าย ๆ เลย เสียดายของแถมอาจต้องซื้อตัวใหม่เร็วเกินคาดด้วยครับ
วิธีเลือก กรรไกร ให้เหมาะกับงานของคุณ
1. ดูชนิดวัสดุที่คุณต้องการตัด
วัสดุที่เราต้องการตัดนี่แหละครับ คือหัวใจสำคัญของการเลือก กรรไกร เลย ถ้าคุณต้องตัดแผ่นโลหะแข็ง ๆ แล้วดันไปหยิบ กรรไกร ตัดกระดาษมาใช้ บอกเลยว่าตัดไม่ขาดแน่นอน แถมเสี่ยงใบมีดพังอีกต่างหาก! หรือถ้าคุณจะตัดพวกท่อ PVC หรือพลาสติกหนา ๆ ก็ต้องใช้ กรรไกร ที่ใบมีดแข็งแรงและไม่เปราะ เพื่อให้ตัดได้เรียบ เนียน และไม่ต้องเปลืองแรงมาก เรียกว่าถ้าเลือกให้ถูกตั้งแต่แรก งานก็ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
2. ขนาดของงานและความถี่ในการใช้งาน
ถ้าแค่ใช้ชั่วคราว เช่น ซ่อมของเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน ไม่ได้หยิบมาใช้บ่อย ก็เลือก กรรไกร ระดับกลางที่ราคาไม่แรงแต่ใช้งานได้คุ้มก็พอครับ แต่ถ้าใครเป็นช่างมืออาชีพที่ต้องใช้งานทุกวัน แนะนำให้ลงทุนกับ กรรไกรคุณภาพดีไปเลยครับ เพราะนอกจากจะใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ยังช่วยให้งานออกมาดีแบบมือโปรอีกด้วย
3. ความสะดวกในการใช้งาน
- ด้ามจับควรออกแบบให้จับได้ถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดเวลาออกแรงตัด จะได้ไม่เสียจังหวะหรือต้องออกแรงซ้ำ ๆ
- ใบมีดควรตัดลื่น ไม่ฝืด เพราะถ้าฝืดมาก ๆ จะทำให้ต้องใช้แรงเยอะ และอาจทำให้งานตัดไม่เรียบ
- น้ำหนักควรพอดี ไม่เบาจนไม่มีแรงตัด แต่ก็ไม่หนักเกินไปจนใช้ไปนาน ๆ แล้วเมื่อยมือ โดยเฉพาะใครที่ต้องใช้งานทั้งวัน ยิ่งต้องใส่ใจจุดนี้เลยครับ
4. ความปลอดภัย
โดยเฉพาะงานไฟฟ้านี่สำคัญมากเลยครับ ต้องเลือก กรรไกร ที่มีฉนวนกันไฟฟ้าไว้ก่อน เพราะเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา อย่างไฟรั่วหรือช็อต ก็ยังมีตัวช่วยกันอันตรายได้บ้าง ส่วนถ้าเป็นงานที่เสี่ยงต่อการที่ใบมีดดีดกลับมาโดนตัวเรา เช่น งานตัดเหล็กหรือของแข็ง ก็ควรเลือก กรรไกร ที่มีระบบล็อกใบมีดไว้ด้วยครับ จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เลยทีเดียว
ตัวอย่างการใช้งานจริง: เลือกยังไงให้ตรงกับงาน
กรณีที่ ช่างแอร์ต้องตัดท่อพีวีซีและสายไฟ
ควรมีกรรไกรสองชนิด:
- กรรไกรตัดท่อพีวีซี: ใช้สำหรับตัดท่อน้ำในระบบประปา เช่น ท่อ PVC หรือท่อพีอี ที่มักใช้ในงานติดตั้งเครื่องปรับอากาศ หรือเปลี่ยนท่อส่งน้ำในบ้าน ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่ายในที่แคบ
- กรรไกรตัดสายไฟแบบมีฉนวนกันไฟ: ใช้ตัดสายไฟได้ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวไฟดูด เพราะมีฉนวนกันไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาทำงานในระบบไฟฟ้า แถมบางรุ่นยังมีฟังก์ชันปอกสายในตัวด้วย
กรณีที่ เจ้าของบ้านชอบทำงาน DIY
- กรรไกรงานเบาทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบงาน DIY หรืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ใช้ตัดผ้า ตัดเทป หรือวัสดุนิ่ม ๆ ได้สบาย
- ถ้าคุณต้องเจอกับวัสดุอย่างแผ่นยางบาง ๆ หรือโฟม ควรเลือก กรรไกร ที่ใบมีดตรงและคมเข้าไว้ครับ จะช่วยให้ตัดได้เรียบ ไม่ฝืด ไม่ต้องออกแรงเยอะ แถมตัดได้เป๊ะอีกด้วย
กรณีที่ ช่างเหล็กในโรงงาน
- ใช้กรรไกรตัดแผ่นโลหะแบบปากตรงหรือปากเฉียง ตามแนวที่ต้องการตัดเลยครับ ถ้าต้องตัดเส้นตรงยาว ๆ ก็เลือกปากตรง แต่ถ้าต้องเลี้ยวมุมหรือโค้งหน่อย ๆ ก็เลือกปากเฉียงจะถนัดกว่า
- แต่ถ้างานตัดนั้นเป็นเหล็กแข็งหรือหนาเกินกว่า กรรไกร ทั่วไปจะรับไหว แนะนำให้ใช้ shear cutter หรือ bolt cutter แทนครับ เพราะออกแบบมาให้ตัดวัสดุแข็งโดยเฉพาะ ช่วยให้ตัดได้ขาดจริง ไม่ต้องฝืนแรง แถมยังปลอดภัยกว่าเยอะ!
สรุป
กรรไกร ไม่ใช่แค่เครื่องมือตัดทั่วไป แต่เป็นอุปกรณ์ที่ต้องเลือกให้เหมาะกับงานและใช้งานอย่างระมัดระวัง ยิ่งถ้าคุณเป็นช่างหรือชอบทำงานซ่อมแซมบ้าน การมี กรรไกร ที่ใช่จะช่วยให้งานคุณง่ายขึ้นเยอะ ไม่เสียเวลา ไม่เสียอารมณ์ และที่สำคัญ ปลอดภัยกับตัวคุณเอง จำไว้นะครับว่า “ไม่ใช่ กรรไกร ทุกเล่มจะตัดได้ทุกอย่าง” แต่ถ้าเลือกให้ถูกกับงาน ทุกงานจะตัดได้แบบมือโปรแน่นอน!
อยากให้ตัดแม่น ตัดลื่น ตัดปลอดภัย ก็แค่เลือก กรรไกร ให้ถูกงานเท่านั้นเองครับ!