ไขควง ชุดไขควง

เคยสังเกตไหมว่าทำไม? ไขควง บางตัวหักง่าย บางตัวใช้ได้เป็นสิบปี!

ถ้าพูดถึงเครื่องมือช่างที่ทุกบ้านต้องมี เราเชื่อว่า “ไขควง” น่าจะติดอันดับต้น ๆ แน่นอนครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพ หรือผู้ที่ใช้งานทั่วไป แค่ต้องขันน็อต ไขควง ก็คือเพื่อนคู่ใจที่หยิบมาใช้ได้ตลอด เรียกว่าเป็นของที่ถ้าไม่มี จะรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไปเลยทีเดียว แล้วเคยสังเกตกันไหมครับว่า ไขควง บางตัวใช้ไม่กี่ครั้งก็หัวบิ่น ด้ามแตก หรือถึงขั้นหักกลางคัน แต่บางตัวกลับอยู่กับเราได้เป็นสิบปี ขันแล้วขันอีกก็ยังแข็งแรงทนทาน เหมือนเพื่อนเก่าแก่อยู่คู่บ้าน วันนี้เราเลยอยากชวนมาคุยกันแบบกันเอง ๆ ว่า อะไรกันแน่ที่ทำให้ ไขควง แต่ละตัวมีอายุการใช้งานต่างกัน

จุดเริ่มต้นของความต่าง : วัสดุของ ไขควง คือหัวใจ

เวลาพูดถึงความทนทานของ ไขควง สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ “วัสดุ” ที่ใช้ทำตัว ไขควง ครับ เวลาเราเล่าเรื่องนี้กับใคร หลายๆคนก็พยักหน้าทันที เพราะใคร ๆ ก็คงเคยเจอประสบการณ์แบบเดียวกัน ไขควง ราคาถูกมาก ๆ มักใช้เหล็กคุณภาพต่ำ อย่างเหล็กกล้าคาร์บอนธรรมดา ๆ ที่แข็งไม่พอหรือเหนียวไม่พอ ทำให้เวลาขันแรง ๆ หัวไขควงจะบิ่นง่าย หรือบิดงอได้เลย ส่วน ไขควง เกรดดีจะใช้เหล็กกล้าผสม (Alloy Steel) หรือเหล็กที่ผ่านการชุบแข็งพิเศษ (Heat-treated steel) ทำให้ได้ทั้งความแข็งและความเหนียวสมดุลกัน จึงทนแรงบิดและการใช้งานหนัก ๆ ได้แบบสบายใจ

เราเองก็เคยมี ไขควง ชุดหนึ่ง ซื้อจากตลาดนัด ตัวละไม่กี่สิบบาท ตอนแรกก็นึกว่าแค่ใช้ขันน็อตเล็ก ๆ ที่บ้านก็น่าจะพอ สุดท้ายแค่ลองขันน็อตประตูแรง ๆ หัวไขควงก็สึกจนไม่เข้าร่องแล้วครับ ตรงข้ามกับไขควงแบรนด์ดี ๆ ที่เราซื้อมาเกินสิบปีแล้ว ทุกวันนี้ยังอยู่ครบ หัวไม่บิ่นเลยแม้จะเจองานหนัก เรียกได้ว่าเหมือนเพื่อนคู่ใจที่อยู่ด้วยกันมานานจริง ๆ

ไขควง

การชุบแข็งและการเคลือบผิว : เรื่องที่เรามองไม่เห็น

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไขควงต่างกันมากคือ “กระบวนการผลิต” โดยเฉพาะการชุบแข็งและการเคลือบผิวครับ ไขควงที่ผ่านการชุบแข็งที่ได้มาตรฐานจะมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงบิดสูง ไม่หักง่าย แต่ถ้าชุบแข็งไม่ดี ไขควงจะกรอบ หักง่ายเหมือนแก้วแตก ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ? ส่วนการเคลือบผิว เช่น การชุบโครเมียมหรือโครเมียม-วานาเดียม ก็ช่วยป้องกันสนิมและยืดอายุการใช้งานได้มาก เรียกว่ามีผลมากกว่าที่ตาเห็นจริง ๆ

เราเองเคยเจอไขควงที่ไม่ได้ชุบอะไรเลย ทิ้งไว้ในกล่องเครื่องมือไม่กี่เดือนก็ขึ้นสนิมจนหัวไขควงฝืด เวลาจะหยิบมาใช้ก็หงุดหงิดสุด ๆ ต่างจากไขควงที่เคลือบผิวมาอย่างดี ต่อให้เก็บในที่ชื้น ๆ ยังแทบไม่เจอสนิมเลยครับ แบบนี้หยิบมาใช้เมื่อไรก็สบายใจ ไม่ต้องกลัวหัวฝืดหรือน็อตเสีย

การชุบแข็ง และการเคลือบผิว : เรื่องที่เรามองไม่เห็น

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ไขควง ต่างกันมากคือ “กระบวนการผลิต” โดยเฉพาะการชุบแข็งและการเคลือบผิวครับ ไขควงที่ผ่านการชุบแข็งที่ได้มาตรฐานจะมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงบิดสูง ไม่หักง่าย แต่ถ้าชุบแข็งไม่ดี ไขควง จะกรอบ หักง่ายเหมือนแก้วแตก ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ? ส่วนการเคลือบผิว เช่น การชุบโครเมียมหรือโครเมียม-วานาเดียม ก็ช่วยป้องกันสนิมและยืดอายุการใช้งานได้มาก เรียกว่ามีผลมากกว่าที่ตาเห็นจริง ๆ

เราเองเคยเจอ ไขควง ที่ไม่ได้ชุบอะไรเลย ทิ้งไว้ในกล่องเครื่องมือไม่กี่เดือนก็ขึ้นสนิมจนหัว ไขควง ฝืด เวลาจะหยิบมาใช้ก็หงุดหงิดสุด ๆ ต่างจากไขควงที่เคลือบผิวมาอย่างดี ต่อให้เก็บในที่ชื้น ๆ ยังแทบไม่เจอสนิมเลยครับ แบบนี้หยิบมาใช้เมื่อไรก็สบายใจ ไม่ต้องกลัวหัวฝืดหรือน็อตเสีย

ไขควง

ด้ามจับ ไขควง ก็สำคัญกว่าที่คิด

หลายคนอาจจะมองข้าม แต่ด้ามจับของ ไขควง ก็มีผลต่ออายุการใช้งานเหมือนกันครับ ไขควง ราคาถูกมักใช้พลาสติกแข็งเกรดต่ำ ทำให้แตกง่ายเวลาเจอแรงกดหรือการตกหล่นแรง ๆ ขณะที่ไขควงดี ๆ จะใช้ด้ามที่ผสมยางกันลื่น (TPR – Thermoplastic Rubber) ทำให้จับถนัดมือ ลดแรงกดที่มือ และยังทนทานต่อแรงกระแทกด้วย เวลาจับแล้วจะรู้สึกมั่นใจมากกว่า เหมือนเราคุมเครื่องมือได้จริง ๆ ไม่ต้องกลัวว่ามือจะลื่นตอนออกแรงขัน

เราเองเคยใช้ ไขควง ด้ามพลาสติกถูก ๆ อยู่พักหนึ่ง แล้วมันดันแตกตอนเผลอทิ้งลงพื้นแข็ง ๆ สุดท้ายกลายเป็นด้ามแหลม ๆ ใช้ไม่สะดวกเลย ต้องซื้อใหม่ ขณะที่ ไขควง ด้ามยางของแบรนด์ดี ๆ หล่นมากี่ครั้งก็ยังอยู่สภาพเดิม แถมตอนหยิบมาใช้ยังรู้สึกสบายมือกว่าเยอะ อ่านมาถึงตรงนี้ใครเคยเจอแบบผมบ้างครับ?

การออกแบบหัว ไขควง

หลายคนอาจไม่รู้ว่า หัวไขควงเองก็มีหลายแบบ และแต่ละแบบก็ต้องผลิตด้วยมาตรฐานที่ต่างกันด้วย หัวที่ตัดไม่แม่น ร่องไม่ตรง จะทำให้ขันน็อตแล้วหลุดง่าย หัวบิ่นไว พอหัวบิ่น น็อตก็สึกตามไปด้วย กลายเป็นปัญหาซ้อนปัญหาเลยครับ เห็นแบบนี้แล้วบางคนอาจจะคิดว่าแค่หัวเล็ก ๆ ไม่น่ามีผลอะไร แต่จริง ๆ มันคือจุดชี้เป็นชี้ตายของงานเลยก็ว่าได้

ช่างที่เรารู้จักหลายคนบอกเหมือนกันว่า ไขควง ที่หัวแม่น ๆ เวลาขันจะ “รู้สึกได้” ว่าเข้ากับน็อตพอดี ขันแล้วไม่ลื่นมือ ต่างจากของถูกที่บางครั้งต้องออกแรงมากกว่า แต่สุดท้ายก็กัดน็อตไม่อยู่ พูดง่าย ๆ คือถ้าใช้ของดี เราไม่ต้องออกแรงเยอะ งานก็เสร็จเร็วขึ้น มือก็ไม่เจ็บด้วยครับ

พฤติกรรมการใช้งาน ไขควง

จะโทษแต่คุณภาพเครื่องมืออย่างเดียวก็ไม่ได้นะครับ เพราะผู้ใช้เองก็มีส่วนสำคัญมาก ๆ ในการยืดอายุ ไขควง เคยเห็นไหมครับ บางคนใช้ไขควงแทนสิ่ว แทนค้อน หรือเอาไปงัดของต่าง ๆ แบบนี้ไม่ว่าไขควงดีขนาดไหนก็พังเร็วแน่นอน แถมบางครั้งยังเสี่ยงบาดเจ็บด้วย

เรายอมรับเลยครับว่าสมัยก่อนก็ทำผิดพลาดแบบนี้เหมือนกัน เห็นอะไรต้องงัดก็หยิบ ไขควง ก่อนเลย จนสุดท้ายไขควงงอ หัก ต้องทิ้งไปฟรี ๆ แถมยังเสียอารมณ์อีกต่างหาก แต่พอเริ่มเข้าใจว่าต้องใช้เครื่องมือให้ถูกประเภท ก็พบว่าไขควงดี ๆ อยู่กับเราได้นานมาก แถมเวลาใช้ก็รู้สึกสบายใจกว่า ไม่ต้องกลัวว่าจะพังง่าย ๆ ใครที่เคยเผลอใช้ผิดแบบนี้ คงพอจะยิ้มออกเพราะเข้าใจความรู้สึกเหมือนกันใช่ไหมครับ

ไขควง ราคาถูก VS ไขควง คุณภาพ : คุ้มจริงไหม?

มาถึงคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่า “ซื้อไขควงถูก ๆ คุ้มไหม?” คำตอบคือ มันขึ้นอยู่กับการใช้งานครับ ถ้าใครใช้แค่ขันน็อตเปลี่ยนถ่านรีโมตปีละครั้งสองครั้ง ไขควงถูก ๆ ก็อาจเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเยอะ แต่ถ้าเป็นงานประจำหรืองานที่ต้องออกแรงมาก ๆ ผมแนะนำให้ลงทุนซื้อไขควงคุณภาพดีไปเลย เพราะสุดท้ายแล้ว “ของถูกซื้อบ่อย ๆ แพงกว่าของดีที่ซื้อครั้งเดียว” คำนี้ใช้ได้จริงแบบไม่เกินจริงเลยครับ

เราเองเคยคิดเหมือนหลาย ๆ คนว่าซื้อชุดละร้อยกว่าบาทน่าจะคุ้มแล้ว แต่พอใช้ไปเปลี่ยนบ่อย ๆ สุดท้ายรวมราคาก็แพงกว่าซื้อชุดดี ๆ ชุดเดียวอีกครับ ที่สำคัญของดีใช้แล้วสบายใจกว่าเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะพังกลางงาน แถมเวลาหยิบมาใช้ก็รู้สึกมั่นใจมากกว่า ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้คงพยักหน้าตามเลยใช่ไหมครับ

เราเคยไปคุยกับรุ่นพี่ช่างเครื่องที่ทำงานในโรงงาน เขาเล่าให้ฟังว่า “ไขควงคือของที่ใช้ทุกวัน ถ้าซื้อของถูก ๆ หัวบิ่นไม่กี่ครั้งก็ต้องทิ้ง แล้วก็เสียเวลาไปหาซื้อใหม่อีก แต่ถ้าใช้ของดี หัวมันเข้ากับน็อตพอดี ทำงานเร็วกว่า ประหยัดแรงด้วย” ฟังแบบนี้แล้ว ผมยิ่งมั่นใจเลยว่าการเลือกซื้อไขควงดี ๆ คือการลงทุน ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ

วิธีเลือก ไขควง ให้คุ้มและใช้ได้นาน

  • เลือกวัสดุ: มองหาคำว่า Chrome Vanadium, S2 Steel หรือ Alloy Steel
  • ดูการชุบผิว: มีการเคลือบกันสนิม เช่น ชุบโครเมียม
  • ด้ามจับ: เลือกด้ามที่จับถนัด ไม่ลื่น และวัสดุไม่แตกง่าย
  • หัวแม่นยำ: ทดสอบโดยการเสียบกับน็อตแล้วหมุนดูว่าพอดีหรือไม่
  • เลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้: บางครั้งราคาสูงขึ้นนิด แต่ประหยัดในระยะยาว

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทำให้ ไขควง บางตัวหักง่าย บางตัวอยู่ได้เป็นสิบปี ไม่ได้มีแค่เรื่องวัสดุหรือการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้งานและการดูแลรักษาของเราด้วยครับ ถ้าเลือกไขควงดี ๆ ใช้ให้ถูกงาน และเก็บรักษาอย่างถูกวิธี คุณก็จะได้เพื่อนคู่ใจที่อยู่กับคุณไปนาน ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *